FACEBOOK ADS การยิงโฆษณาประเภทข้อความ
โดยปัจจุบันเค้ามีวัตถุประสงค์ในการยิงโฆษณาแบบ “ข้อความ (Messages)” ขึ้นมารองรับการทำการตลาดตรงนี้โดยเฉพาะ เมื่อเราเลือกวัตถุประสงค์นี้ จะเป็นการบอกให้ระบบพยายามนำส่งโฆษณาของเราไปหาคนที่มีแนวโน้มจะสนทนากับธุรกิจของเราใน Messenger
ซึ่งภายใต้วัตถุประสงค์นี้เราสามารถยิงโฆษณาได้ 2 ประเภท 1. โฆษณาที่คลิกไปยัง Messenger (Click to Messenger)
โฆษณาประเภทนี้ คือ โฆษณาที่เรากำหนดปลายทางในการคลิกไปยัง Messenger ไม่ว่ากลุ่มเป้าหมายจะเห็นโฆษณาบน Facebook Instagram หรือใน Messenger เมื่อเค้าคลิกโฆษณา ก็จะนำพาไปสู่การเริ่มต้นการสนทนากับธุรกิจใน Messenger ทันที โดย Facebook จะให้เรา กำหนด “ข้อความต้อนรับ” เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายเริ่มสนทนากับธุรกิจด้วยครับ
2. ข้อความที่ได้รับการสนับสนุน (Sponsored message)
โฆษณาอีกประเภทที่เราสามารถใช้ได้ภายใต้วัตถุประสงค์ข้อความ คือ “ข้อความที่ได้รับการสนับสนุน (Sponsored message) ซึ่งเป็นการยิงโฆษณาแบบข้อความไปหากลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าที่ “เคย” สนทนากับธุรกิจมาก่อนบน Messenger ครับ
ข้อดีของการยิงโฆษณาแบบข้อความ
1. เป็นการติดต่อสื่อสารที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค
เมื่อทุกวันนี้ผู้บริโภคชอบแชท เราก็ทำโฆษณาที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของเค้าไปเลย แทนที่จะยิงโฆษณาทั่วไป และรอให้เค้า inbox มาสอบถาม เราก็ยิงโฆษณาไปใน inbox เพื่อเปิดการสนทนาเองเสียเลย
2. เป็นช่องทางในการทำตลาดแบบ Personalization
การยิงโฆษณาแบบข้อความช่วยให้เราติดต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้ในระดับลึกมากยิ่งขึ้น เมื่อเข้าสู่การสนทนา เราจะรู้แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายที่เรากำลังคุยอยู่เป็นใคร มีความต้องการหรือปัญหาอะไร ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการหรือแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างตรงจุด และมีความเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น
3. ให้ความรู้สึกที่ Soft กว่าการปิดการขายตรงๆ
ลองนึกดูว่า ถ้าลูกค้ากำลังเริ่มสนใจสินค้านิดๆ การที่เค้าคลิกโฆษณา แล้วมันนำไปยังหน้าสั่งซื้อสินค้าเลย ลูกค้าอาจรู้สึกว่ามันรวบรัดเกินไป Hard sale เกินไป การนำพาเค้าไปยัง inbox เพื่อให้เค้ามีโอกาสได้สอบถามข้อมูล หรือได้ไขข้อสงสัยก่อน อาจเป็นทางเลือกที่ Soft กว่าในการกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าของเรา
แนวทางในการยิงโฆษณาแบบข้อความ
1. ยิงเพื่อปิดการขายตั้งแต่แรก
บางธุรกิจที่มั่นใจว่าสินค้าของตัวเองเป็นสินค้าประเภทซื้อง่ายขายคล่อง เป็นสินค้าที่กลุ่มเป้าหมายเห็นโฆษณาแว็บเดียวแล้วอยากได้เลย สร้างความต้องการซื้อได้ทันที
2. ยิงเพื่อสร้าง Leads
เราอาจใช้การยิงโฆษณาแบบข้อความเพื่อหา “ว่าที่ลูกค้า (Leads)” หรือ คนที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อสินค้าของเรา เน้นการสร้างปฎิสัมพันธ์ โดยมุ่งเก็บข้อมูลคนเหล่านี้ไว้เพื่อที่จะยิงโฆษณาซ้ำกลับไปหา (retargeting) เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจหรือปิดการขายอีกที
3. ยิงเพื่อ Retargeting
เราอาจะใช้โฆษณาแบบข้อความ ยิงไปหากลุ่มเป้าหมายที่เคยเห็นโฆษณา หรือเคยมีปฎิสัมพันธ์กับธุรกิจของเราไปแล้ว เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อหรือปิดการขาย
4. ยิงเพื่อ Up-selling หรือ Cross-Selling
เราอาจใช้โฆษณาแบบข้อความยิงไปหาคนที่เคยสนใจสินค้า หรือยิงไปหาลูกค้าเก่า เพื่อที่นำเสนอสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าหลัก (Cross-Selling) หรือนำเสนอสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น (Up-selling)
5. ยิงเพื่อ support ปัญหาหรือข้อสงสัยต่างๆ
เราคงจะเห็นแล้วว่าการยิงโฆษณาแบบข้อความสามารถทำได้หลายแนวทาง ขึ้นอยู่กับว่า “เราต้องการผลลัพธ์อะไร” และ “เราขายสินค้าประเภทไหน” เป็นสำคัญ
สรุป
เราคงจะเห็นแล้วว่าการยิงโฆษณาแบบข้อความสามารถทำได้หลายแนวทาง ขึ้นอยู่กับว่า “เราต้องการผลลัพธ์อะไร” และ “เราขายสินค้าประเภทไหน” เป็นสำคัญ สมมติคุณขายสินค้าที่รู้อยู่แล้วว่าขายยาก แต่คุณกลับยิงโฆษณาแบบข้อความไปเพื่อหวังปิดการขายแต่แรกที่ลูกค้าเห็นโฆษณา มันก็คงไม่เวิร์คแน่ๆ เพราะฉะนั้น 2 เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่คุณต้องเคลียร์ให้ชัดก่อนยิงโฆษณา และเลือกแนวทางในการใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้เราได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ และไม่ละลายเงินค่าโฆษณาไปแบบสูญเปล่า
ขอบคุณที่มา : maxideastudio