แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวสาร แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวสาร แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2566

sharing economy


sharing economy

sharing economy หรือ เศรษฐกิจแบบแบ่งปันคืออะไร



การดำเนินธุรกิจการค้าและการบริการในอดีตเป็นไปในรูปแบบดั้งเดิมที่มีลักษณะเส้นตรง (Linear) ซึ่งอธิบายให้เข้าใจโดยง่าย คือ ในการผลิตสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่ง โรงงานอุตสาหกรรมจะทำหน้าที่ผลิตสินค้านั้นๆ และส่งต่อให้ผู้จัดจำหน่ายทำหน้าที่กระจายสินค้า ขณะที่ลูกค้าซื้อสินค้า และเป็นเจ้าของสินค้าดังกล่าวตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งต่อมา กระบวนทัศน์ลักษณะนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2551 หรือภายหลังวิกฤตซับไพรม์(Subprime Crisis) โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) ขึ้น เป็นระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ที่รองรับการใช้งาน การประมวลผล ตลอดจนการจัดเก็บ ข้อมูลได้อย่างมหาศาล โดยทำงานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ให้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งกับผู้ใช้อื่น ทั้งนี้ผู้ให้บริการจะแบ่งปันทรัพยากรให้กับผู้ใช้บริการโดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเป็น เจ้าของในสินทรัพย์ดังกล่าว




จากการพัฒนาเทคโนโลยีนี้นำไปสู่การดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและบริการชั่วคราวมากขึ้น โดยมีแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นตัวกลาง ซึ่งรูปแบบธุรกิจที่ว่านี้เรียกว่า เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing Economy) มีความโดดเด่น ตามรูปแบบธุรกิจบนเครือข่าย (Network) ที่มีค่าคอมมิชชั่น เล็กน้อยต่อการทำธุรกรรม




 
สิ่งสำคัญของแพลตฟอร์มการแบ่งปันนี้อยู่ที่การใช้ซอฟต์แวร์เพื่อเป็นระบบกลางในการเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้ากับผู้ประกอบการ โดยมีผู้ให้บริการเศรษฐกิจแบบแบ่งปันเป็นผู้บริหารจัดการสินทรัพย์ที่กำหนดซึ่งตรงกันข้ามกับโมเดลธุรกิจแบบดั้งเดิมที่บริษัทต่างๆ จะให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมเพื่อผลิตสินทรัพย์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งาน ตัวอย่างการให้บริการแบบแบ่งปัน เช่น Uber เป็นธุรกิจที่ให้บริการรถยนต์ แต่กลับไม่มีรถยนต์เป็นสินทรัพย์ของบริษัทตัวเอง หรือ Airbnb ที่ให้บริการรับจองที่พัก แต่ไม่ได้มีที่พักเป็นของ Airbnb เองเช่นกัน แต่เป็นไปใน ลักษณะของการให้บริการผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มรูปแบบต่างๆ สำหรับให้เจ้าของสินทรัพย์ตัวจริงหรือผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการสามารถทำรายการซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ทั้งนี้ ปัจจุบันธุรกิจที่มีการแบ่งปันที่สำคัญหลักๆ ไว้ 5 ประเภท คือ การท่องเที่ยว การแบ่งปันรถยนต์ การเงิน การจัดหาบุคลากรเข้าทำงาน และการสตรีมมิ่งเพลง/วิดีโอ





อ้างอิงที่มาจาก  https://www.nesdc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=10203
หากสนใจติดต่อใช้บริการกับทาง BS Express https://bsgroupthailand.com/

วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566

แนวโน้มโลจิสจติกส์ของประเทศไทย



การได้มาของข้อมูลเพื่อมาทำ Big Data​

ผู้ประกอบการยอมขาดทุนจำนวนมาก





แนวโน้มของการทำธุรกิจยุคใหม่ของต่างชาติจะมีรูปแบบของการกระตุ้นการตลาด โดยใช้การขาดทุนจำนวนมาก ผ่านการตั้งราคาที่ไม่คำนึงถึงต้นทุน เพียงหวังเพื่อให้ได้จำนวนผู้ใช้บริการมากๆ อันจะนำไปสู่การได้ฐานข้อมูล(Big data) ซึ่งจะมีมูลค่าและเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการทำธุรกิจของกลุ่มเจ้าของสินค้า ตลอดจนกลุ่มนักลงทุนจากทั่วโลก การตั้งราคาต่ำ ทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการทั่วไป โดยเฉพาะผู้ประกอบการคนไทยไม่สามารถแข่งขันได้​



5 แนวโน้มโลจิสติกส์ทั่วโลกปี 2021​


ปี 2020 เป็นปีที่ยากลำบากและท้าทายที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากโรคโควิด-19 แล้ว 2.2 ล้านคน และมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 100 ล้านคน การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน การใช้ชีวิต และการเล่นของเราเป็นพื้นฐานที่ทำให้บางพื้นที่ต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วหลายปี (เช่น วิธีที่เราบริโภค ซื้อ และทำงาน) ในขณะที่พื้นที่อื่นๆ ถอยหลัง (เช่น ต่อสู้กับความยากจนทั่วโลก)​

เทรนด์ที่ 1: โลจิสติกส์สีเขียว​
เทรนด์ที่ 2: ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน​
เทรนด์ที่ 3: การขนส่งสินค้าแช่เย็น
เทรนด์ที่ 4: บริการหลากหลายช่อทางและการติดต่อส่งสินค้าน้อยลงตามวิถีใหม่
เทรนด์ที่ 5: เทคโนโลยีและ 5G​




เว็บบริษัท : https://bsgroupthailand.com/service.php

วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เจาะลึกความสำเร็จของ Alibaba

 Alibaba คืออะไร?


    Alibaba คือ เว็บไซต์ตลาดออนไลน์สัญชาติจีนที่ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2542 โดย “แจ๊ค หม่า” อยู่ในรูปแบบการค้าขาย B2B Marketplace ที่มีไว้เพื่อขายส่งสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ทำธุรกิจ มีสินค้าหลากหลาย ลูกค้าส่วนใหญ่จะเน้นซื้อในปริมาณมากมาขายทำกำไร มีการกำหนดยอดขั้นต่ำเอาไว้แล้วระบุเป็นแคตตาล็อกสำหรับจำหน่ายสินค้า ยิ่งซื้อมากราคาก็จะถูกลงตามไปด้วย

    โมเดลธูรกิจของ Alibaba


    ทำธูรกิจแฟลต์ฟอร์มค้าปลีกแบบC2C (customer to customer) โดยให้คนที่ต้องการขายสินค้ามาเปิดร้านค้าออนไลน์บนแฟลต์ฟอร์มได้ฟรี และจะเก็บค่าใช่จ่ายเมื่อผู้ขายต้องทำการตลาดหรือโฆษณาสินค้าปัจจุบันเถาเป่ามีคนขายยสินค้าในระบบประมาณ 400ล้านราย

ทำธูรกิจค้าแพลต์ฟอร์มค้าปลีกแบบ B2C ( business to customer) โดยให้ร้านค้าแบรน์ดังเข้ามาขายในแพลต์ฟอร์ม จะเก็บค่าใช้จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายและเก็บค่าบริการรายปี
ไช่เหนี่ยวหว่างลั่ว เป็นแพลต์ฟอร์มด้านโลจิตกส์ของอาลีบาบา โดยไม่ได้ัมีรถขนส่งเป็นของตัวเองแต่เน้นการเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงบริษัทขนส่งต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อรองรับการจัดส่งสินค้าออนไลน์ โดยมีการใช้ AI  มาวิเคราะห์การจัดการ โลจิสติกส์ ให้มีประสิทธิภาพ เช่น วิเคราะห์เส้นทาง และบริการการจัดส่งสินค้า เป็นต้น
    ลักษณะการดำเนินกิจการ
1. cainiao ลงทุนซื้อคลังสินค้าของตัวองแต่่ใช้รถ Line Hall และรถส่ง Last mile ของบริษัทพันธมิตร

2.cainiao มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่คลังสินค้า โดยเฉลี่ยลูกค้าของ cainiao ค่าขนส่งของผู้ใช้บริการขนส่งรายย่อยอยู่ที่ 20-25 บาทต่อชิ้น โดยขณะที่ผู้ให้บริการขนส่งทั่วไปมีคลังสินค้าให้ด้วย จะอยู่ที่ประมาณ 50 บาทต่อชิ้น 

3.ถ้าคลังสินค้าเต็มก็ยังสามารถเช่าคลังสินค้าของพันธมิตรผ่านระบบ ai ได้

4.การเชื่อมโยงของระบบ skynet และ Ground network ทำให้ขนส่งสินค้าพันนธมิตรของ Alibaba ไปปรากฏชื่อใน Platform E-commerce ทั้ง taobao และ Tmall ซึ่งความเชื่อมโยงไม่จำกัดแค่ระบบขนส่งแต่รวมระบบ จ่ายเงินออนไลน์และการจ่ายเงินปลายทาง

5.การใช้ big date และการใช้พันธมิตร ทำให้ cainiao   ไม่ต้องจ้างคนเยอะเกินไป หลักจากก่อตั้งบริษัทได้ 2 ปี มีพนักงาน 1000 คน แต่มีการประสานงานกับผู้คนมากกว่า 200 ล้านคน ใน 1 วัน เพื่อจัดการพัสดุ มหาศาลประมาณ  35 ล้านชิ้นต่อวัน  


6.cainiao ยังได้ทำการลดต้นทุน ค่าเอกสารโดยการหันมาใช้เอกสารอิเลกทรอนิกส์แทน ซึ่งช่วยทำให้ส่งพัสดุเร็วขึ้น 30 % และลดต้นทุนค่าเอกสารมากว่า 50 % รวมเป็นเงินปีละ 6,000ล้านกว่าบาท

เว็บไซต์บริษัท : https://bsgroupthailand.com/news-detail.php?id=58








วันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2566

แนวทางการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย

 

แนวทางการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย

ร่งพัฒนาและผลักดันการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก และพัฒนาปัจจัยสนับสนุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ยกระดับโครงสร้างขึ้นพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในอุตสาหกรรมโสจิสลิกส์ รวมทั้งพัฒนา และเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง​

1.พัฒนาโครงสร้งพื้นฐานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจและกิจกรรมโลจิสติกส์ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ใช้ครบวงจรอย่างมืออาชีพ

2.ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีการใช้ประโยชน์ จาก Application หรือ

Platform Online ในการขนส่งสินค้า บริหารจัดการคลังสินค้า และ กิจกรรมโลจิสติกส์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน


3.พัฒนาการบริหารจัดการระบบฐานข้อมูลด้านโสจิสติกส์ ของภาครัฐที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลไปใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ ติตามประเมินผล และวางแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจ


4.การพัฒนาแบบจำลองธุรกิจ (Simulation Model) เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์และเตรียม ความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของตลาดได้ทันต่อสถานการณ์


สนับสนุนการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ B2C (Business to Cosnsumer) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมืออาชีพ


สนับสนุนการเชื่อมโยงการค้าสู่รูปแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) เพื่อขยายโอกาส

ทางการตลาดและสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

(Digital Technology)


ปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ

ส่งเสริมผู้ประกอบการในการปรับการบริหารคลังสินค้าให้สามารถรองรับการดำเนินธุรกิจแบบ e-Commerce เช่น

1.การบริหารจัดการพื้นที่จัดเก็บสินค้าระหว่างการผลิต (Work in Process) เพื่อตอบสนองการผลิตขั้น

สุดท้ายตามความต้องการของผู้บริโภค

2.การพัฒนาการบริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง (Fulfillment)

3.พัฒนาเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าส่วนภูมิภาค (Regional Distribution) เพื่อตอบสนองความ

ต้องการขนส่งแบบถึงมือผู้รับ (Door-to-Door) ได้ย่างมีประสิทธิภาพ


สร้างเครือข่ายผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทยและสร้างพันธมิตรกับผู้ประกอบการในระดับภูมิภาค


1.ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย เข้าร่วมลงทุนและสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการต่างประเทศทั้งใน

ภูมิภาคและอนุภูมิภาค เพื่อขยายฐานการตลาดและสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ


2.พัฒนาศูนย์ให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านโลจิสติกส์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการดำเนินธุรกิจ

นำเข้า-ส่งออก การขนส่ง และกิจกรรมโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ตลอดจนระเบียบและวิธีการปฏิบัติของแต่ละประเทศ


3.ส่งเสริมการปรับรูปแบบการดำเนินกธุรกิจไปสู่แนวศิดเศรษฐกิจแบ่งบัน (Sharing Economy) เพื่อให้เกิด

การใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ


4.สนับสนุนมาตรการทางการเงินและทางภาษีให้แก่ผู้ให้บริการโสจิสติกส์ไทยในการลงทุนและสร้างเครือข่ายในต่างประเทศ


เว็บไซต์บริษัท : https://bsgroupthailand.com/news-detail.php?id=58


วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ถ่ายทำจากช่องอัมรินทร์ มาถ่ายทำภาพการดำเนินธุรกิจ และสัมภาษณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบีเอสของเรา ภายใต้โครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เราได้รางวัลDIPROM HERO

โครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เราได้รางวัลDIPROM HERO

    วันนี้มีกองถ่ายทำจากช่องอัมรินทร์ มาถ่ายทำภาพการดำเนินธุรกิจ และสัมภาษณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบีเอสของเรา ภายใต้โครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เราได้รางวัลDIPROM HERO

เฮียขอขอบคุณทีมงานเราทุกคนที่ช่วยกันต้อนรับ อำนวยความสะดวก ทั้งการให้ข้อมูล การเป็นนายแบบ นางแบบ ทำให้การถ่ายทำสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอบคุณทีมงานบีเอสทุกคน ที่ทำให้เราได้รับรางวัล ทีมงานทุกคนสุดยอดครับ

ภาพบรรยากาศการถ่ายทำ












ถ่ายทำจากช่องอัมรินทร์ มาถ่ายทำภาพการดำเนินธุรกิจ และสัมภาษณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบีเอสของเรา ภายใต้โครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เราได้รางวัล DIPROM HERO

ในยุคที่เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเติบโตก้าวกระโดด การมีภาพประกอบและสื่อประกอบที่มีคุณภาพสูงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแสดงผลธุรกิจของบีเอส การได้เข้าถึงเป้าหมายและลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างความสำเร็จในอุตสาหกรรมอันแข็งแกร่งนี้

เราได้รับเกียรติจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในการได้รับรางวัล DIPROM HERO ซึ่งเป็นรางวัลที่ยังมีความเป็นเกียรติอย่างมากในวงการธุรกิจ โดยรางวัลนี้ถือว่าเป็นการยอมรับความสำเร็จที่เราได้สร้างขึ้นในการดำเนินธุรกิจของเราอย่างมืออาชีพและประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมอันแข็งแกร่งนี้

นอกจากนี้ เราได้มีโอกาสที่จะสัมภาษณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบีเอสที่ช่องอัมรินทร์ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์และความสำเร็จของเรา การสัมภาษณ์ช่องอัมรินทร์ เป็นสื่อที่มีชื่อเสียงและรายการที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการเผยแพร่ภาพการดำเนินธุรกิจของเรา และการแบ่งปันประสบการณ์กับผู้ชมทั่วไป

เราหวังว่าบทความนี้จะสร้างแรงบันดาลใจและมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่กำลังตั้งใจที่จะเริ่มต้นธุรกิจหรือคนที่ต้องการเพิ่มความรู้และความเข้าใจในอุตสาหกรรม บีเอสจะมอบความรู้และประสบการณ์ที่สำคัญให้กับคุณ

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของเราไม่มาจากการรับรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่มาจากความพยายาม ความมุ่งมั่น และความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพของทีมงานบีเอส ซึ่งนำมาซึ่งความสำเร็จระดับสูงในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

ขอขอบคุณกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ให้เกียรติและรับรางวัล DIPROM HERO ที่ยิ่งใหญ่ รวมถึงผู้ชมทุกคนที่ติดตามเราผ่านช่องอัมรินทร์ งานนี้จะเป็นการจุดประกายและส่งต่อความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพในอุตสาหกรรมอันแข็งแกร่งนี้

เพื่อนๆ ที่รัก อย่าลืมติดตามเราต่อไปเพื่อดูความสำเร็จที่กำลังจะมาถึงกันเองในอนาคตอันใกล้นี้ ขอบคุณที่ติดตามเราและสนับสนุนเราตลอดเวลา เราพร้อมที่จะสร้างความสำเร็จและมอบความมั่นใจให้กับทุกคน!
#เป็นอาชีพ #ธุรกิจ #บีเอส #DIPROMHERO #มืออาชีพ

ติดตามเราได้ที่ :
            เว็บไซต์ https://bsgroupthailand.com/
            Facebook https://www.facebook.com/bsexpressthailand


  5 ส. หรือ 5S คือเครื่องมือสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย ประกอบไปด้วย สะสาง-สะดวก-สะอาด-สุขลักษณะ-สร้างนิสัย มีวัตถุประสงค์หลัก ๆ เพื่อลดต้...